@parnthanaporn เธอแจ้งความตั้งใจที่จะกักตัวในบ้านสิบสี่วันให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบผ่านทางไลน์... ก่อนกักตัว เธอเตรียมเสบียงอาหารบางส่วนเพื่อไม่ต้องข้องแวะกับผู้คนนอกบ้านโดยไม่จำเป็น และยังวางแผนใช้บริการส่งอาหารและของใช้ถึงบ้าน ถ้าเบื่ออาหารที่เตรียมไว้ หรือต้องการอะไรเพิ่มเติม เมื่อเพื่อนบ้านได้รับข้อความ ก็ส่งข้อความชื่นชมและให้กำลังใจเธอ พร้อมอาสาจัดส่งอาหารให้วันละครั้ง แต่ละครั้งกะให้เพียงพอแบ่งทานได้สามมื้อ แทนที่เพื่อนบ้านจะทำอาหารแค่พอดีทานกันเองในครอบครัว ก็เตรียมเผื่อเธอด้วย ทุกวันจะนำอาหารมาแขวนที่รั้วประตูบ้านเธอ แล้วก็ส่งข้อความให้เธอมารับไป
ที่น่าสนใจคือผู้ที่กักตัวเองอยู่ที่บ้านได้รับกำลังใจมาก ถึงกับแชร์ภาพอาหารที่ข้างบ้านจัดให้ในแต่ละวัน... นี่เป็นตัวอย่างของการร่วมมือกันจัดการปัญหา ไม่ใช่จัดการคน แทนที่จะเปลืองพลังงานไปกับความหวาดระแวง นำพลังงานมาช่วยคนจัดการกับปัญหา ซ้ำยังเป็นการสร้างเสริมมิตรภาพ
บรรยากาศปีใหม่ไทยปีนี้แตกต่างจากปีที่ผ่านๆ มา เราอาจไม่ได้ออกไปเล่นสนุกกันนอกบ้านอย่างเคย ไม่ได้ไปเดินทางไปกราบขอพรรดน้ำดำหัวผู้ใหญ่ตามประเพณี แต่บรรยากาศที่คนในสังคมทุกภาคส่วน ทั้งระดับชุมชน ประเทศ และโลก ช่วยเหลือกันแก้ปัญหาดุจหนึ่งครอบครัวใหญ่ ถือเป็นการเฉลิมฉลองเทศกาลครอบครัวที่เหมาะแก่เวลาและสถานการณ์อย่างมากทีเดียว
ผู้เขียนคิดถึงคำของ มหาตมะ คานธีที่ว่า “การเป็นมิตรกับโลก และเห็นประชาชนในโลกเป็นดั่งหนึ่งครอบครัวใหญ่ คือทางสว่าง” ...ข้อเสนอแนะนี้ยังใช้ได้ดีอยู่เลย
สุขสันต์วันปีใหม่ไทยครับ
@chayrawongwat 🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻🙏🏻